รถรับจ้างทั่วไทย

หลาย ๆ คน เลือกที่จะใช้บริการรถรับจ้าง ในยามที่ต้องย้ายหอพัก, ย้ายคอนโด, ย้ายบ้าน หรือในปัจจุบันนี้ ผู้ที่เปิดร้านขายของในตลาดหรือใน Avenue ต่าง ๆ ที่อาจจะมีรถเป็นของตัวเอง แต่ไม่เพียงพอต่อการใช้ในการขนย้ายสินค้า ก็จะต้องใช้บริการรถรับจ้างเหล่านี้ โดยมีทั้งรถรับจ้างที่ผู้ให้บริการวิ่งรถของตนเอง และรถรับจ้างของบริษัทขนส่งเอกชน ซึ่งการใช้บริการของรถรับจ้าง 2 รูปแบบนี้ มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องของการให้บริการและราคา ดังนั้นก่อนที่คุณจะใช้บริการรถรับจ้างทั่วไทยในบทความนี้ เราจะมาแนะนำให้คุณผู้อ่าน ได้เข้ามาทำความรู้จักกับการใช้บริการขนส่งเหล่านี้ ภายใต้งบประมาณที่จำกัดกัน

รถรับจ้างทั่วไทย แบบไหนตอบโจทย์กว่ากัน

โดยการโฆษณาของรถรับจ้างทั่วไทย จากทั้ง 2 แบบผู้ให้บริการก็จะมีทั้งการโฆษณาในเว็บไซต์ต่าง ๆ และการติดป้ายประกาศตามถนนหรือเสาไฟ ซึ่งมักจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบดังนี้… 

1. รถรับจ้างทั่วไทย : ที่เจ้าของทำการวิ่งรถเอง

ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรถที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก หรือเป็นรถกระบะแบบ 4 × 4 ที่มีการติดตั้งหลังคาโครงเหล็กสูง ป้องกันสินค้าหล่นระหว่างทาง บริการรถรับจ้างทั่วไทยในลักษณะนี้ ก็จะมีราคาที่ย่อมเยา ส่วนใหญ่ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 500 บาท และราคาก็จะไต่ขึ้นสู่ระดับสูง ในกรณีที่ต้องขนของเยอะขึ้น และระยะทางไกลขึ้น เหมาะกับการย้ายหอพัก, คอนโด หรือช่วยในการขนย้ายของต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ผู้ให้บริการรถรับจ้างทั่วไทย ในลักษณะนี้ มักจะมีบริการที่ดี แม้จะไม่ได้เป็นการให้บริการบริษัทขนส่งเอกชนก็ตาม เพราะยิ่งมีการบริการดี ก็เท่ากับลูกค้าก็จะเกิดความประทับใจ อาจกลับมาใช้บริการอีกในภายหลังหรือแนะนำบอกปากต่อปาก แนะนำให้เพื่อนเข้ามาใช้บริการ ทำให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่อง 

ข้อดี

  • ราคาย่อมเยา ราคาเริ่มต้น 500 บาท
  • เหมาะกับการขนของในหอพัก หรือห้องขนาดเล็ก

เรื่องน่ารู้

  • อาจเสี่ยงกับผู้ให้บริการ ที่ไม่เป็นมืออาชีพ
  • ถ้าต้องการจ้างเด็กยกของ ต้องเพิ่มเงินค่าจ้างเข้าไปอีก ส่วนใหญ่อยู่ที่ 500 บาทต่อคน 

2. รถรับจ้างทั่วไทย : บริการขนส่งเอกชน

การให้บริการ รถรับจ้างทั่วไทยราคาเริ่มต้น 1,500 บาทขึ้นไปเท่านั้น และมักจะมีลักษณะเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ 6 ล้อ บรรทุกสูงสุด 5 ตัน เหมาะแก่การย้ายบ้าน หรือย้ายข้ามจังหวัดระยะทางไกล ถึงแม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ผู้ให้บริการบางเจ้าก็เพิ่มบริการเด็กช่วยยกของให้ด้วย โดยที่ผู้จ้างไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเติม  

ข้อดี

  • เหมาะกับการขนส่งทางไกล ข้ามจังหวัด
  • ผู้ใช้บริการที่มีข้าวของจำนวนมาก หรือของชิ้นใหญ่
  • ผู้ให้บริการมีความเป็นมืออาชีพ

เรื่องน่ารู้

  • ราคาเริ่มต้นสูง
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการขนของจำนวนน้อย หรือขนระยะทางใกล้

และนี่ก็คือ ความแตกต่างระหว่างการใช้บริการขนส่งรถรับจ้างทั่วไทยใน 2 รูปแบบ ซึ่งการที่คุณจะเลือกใช้บริการไหน ก็ขอให้ตรวจสอบรีวิว หรือชื่อเสียงของขนส่งเจ้านั้น ๆ หรือบริษัทนั้น ๆ ให้ดีเสียก่อน อีกทั้งผู้ให้บริการยังต้องมีวาจาสุภาพขณะที่พูดคุย และตกลงราคากันให้เข้าใจก่อนที่จะเรียกมาใช้บริการ เพื่อการขนส่งอย่างราบรื่น และเดินทางถึงปลายทางอย่างมีสวัสดิภาพ